12 มิ.ย. 2551

15 ข้อคิดดีๆ รักษาจิตใจ




คนเราทุกวันนี้แม้อยู่กันเต็มบ้าน แต่บางบ้านดูจะห่างไกลการพูดคุย และสัมพันธภาพกันเสียเหลือเกิน ดังนั้นเราจึงมีเนื้อความดีๆ ที่เพื่อนๆ ส่งมาให้ทางอีเมล์มาแนะนำการรักษาจิตใจ ให้มีสุขภาพดู ไม่เป็นจิตใจที่อ่อนแอ หรืออคติ คิดเจ้าแค้น พยาบาทให้บั่นทอนความรู้สึกดีๆ ต่อกัน ซึ่งเป็นข้อเขียนของนงนุช มีสวน นั่นคือ

1. คนเรามีความรู้สึกรัก ชอบ โกรธ เศร้า ไม่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าเวลาไหนมันจะแสดงออกมามากน้อยเพียงใดเท่านั้น " คนที่จะหัวเราะได้เสียงดัง ข้างในคงต้องขำบ้างพอสมควร คนที่น้ำตาจะไหลได้ ข้างในคงมีเรื่องปวดร้าว....ถ้าไม่นับการร้องไห้ที่มาจากความปิติ "


2. โลกสอนมนุษย์ว่าทุกสิ่งต้องมีการเปลี่ยนแปลง...แต่โลกก็กลับสอนให้มนุษย์ผูกพัน


3. คนที่ตลกหัวเราะสดใส ก็คือคนเดียวกับคนที่สามารถร้องไห้ฟูมฟายได้ เพียงแต่คุณจะได้เห็นหรือเปล่าเท่านั้น อาจจะเคยได้ยินว่า " คนที่หัวเราะได้ดังที่สุด ก็คือคนที่สามารถร้องไห้ได้ดังที่สุดเช่นกัน"


4. เด็กๆ จะมองว่าผู้ใหญ่ซีเรียส ในขณะที่ผู้ใหญ่จะบอกว่า เด็กไร้สาระ เพราะเด็กไม่เคยเป็นผู้ใหญ่มาก่อน วันหนึ่งเค้าคงจะรู้ว่า ทำไมถึงต้องมีเรื่องซีเรียส สำหรับผู้ใหญ่ซึ่งได้ผ่านวัยเด็กมาแล้วอาจจะลืมไปว่า ณ วันที่ผ่านมา" สาระ"ในชีวิตของเ-า คืออะไร


5. ครอบครัวไทยมักจะเลี้ยงลูกผู้หญิงให้เป็นฝ่ายถูกเลือก คอยสั่งสอนให้ทำตัวเรียบร้อย ไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครเลือกไปเป็นคู่ครอง.... แต่ความจริงแล้วผู้ชายและผู้หญิง เราต่างเลือกซึ่งกันและกันมากกว่า


6. เพื่อนที่ดีที่สุด คือคนที่คุณสามารถนั่งอยู่ริมระเบียงด้วยกันโดยไม่พูดอะไรกันซักคำ แต่สามารถเดินจากไป ด้วยความรู้สึกเหมือนได้คุยกันอย่างประทับใจที่สุด


7. ใครหลายคนไม่กล้าเข้าไปปลอบโยนให้คำปรึกษากับเพื่อนเพราะคิดว่าเราไม่รู้จะบอกเคายังไง เพราะเราเป็นแค่เพื่อน....แต่ความจริงแล้วคุณเป็นตั้งเพื่อนต่างหาก


8. ผู้ชายที่ร้องไห้ และยอมรับว่าตัวเองร้องไห้เขาคือสุภาพบุรุษที่สุด อย่างน้อยการซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง... คือความกล้าหาญสุดยอด


9. ก่อนที่วันนี้ คุณจะทำความรู้จักกับผู้คนใหม่ๆ อย่าลืมสำรวจตัวเองก่อนว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมา... ทำใครหล่นหายไปจากชีวิตหรือเปล่า


10. เงินไม่ใช่พระเจ้า แต่ทำให้เรามีทางเลือกมากขึ้น


11. มีสติ สตางค์อยู่ ก็ปลีกเวลาไปใช้เสียบ้าง อีกหน่อยไม่มีสติแต่มีสตางค์...ก็สายไปเสียแล้ว


12. เวลาที่เรารักใคร เราจะรู้สึกตัวเล็กเ หลือเกิน...เวลาใครรักเรา เราจะรู้สึกตัวใหญ่เหลือเกิน...แต่ถ้าเราเจอคนที่เรารักเขาและเขาก็รักเรา เราจะผลัดกันตัวเล็กตัวใหญ่


13. วันที่คุณเข้มแข็งและแข็งแรงพอ อย่าลืมเป็นผู้ฟังที่ดีให้กับคนที่มีปัญหาด้วย "เอาไหล่ให้เขาพิง เอามือให้เขาจับ".....100 คำพูดดี ดี ไม่เท่ากับ 1 สัมผัสที่มีค่าหรอกนะ


14. คุณรู้ไหมว่า อายุคนเราเฉลี่ย 76 ปีนั่นคือแค่ 3,952 อาทิตย์เท่านั้นคุณหมดเวลาไปกับการนอนถึง 1317 อาทิตย์ ซึ่งเท่ากับว่าคุณเหลือเวลาที่ใช้ดำเนินชีวิตแค่ 2,635 อาทิตย์เท่านั้นเอง


15. ลองฉลองวันเกิดกับครอบครัวสักปี แล้วคุณจะได้รู้ว่า เมื่อตอนที่คุณร้องไห้จ้าในวันเกิดวันแรก คนในครอบครัวคุณมีความสุขกันขนาดไหน.......

7 พ.ค. 2551

ข้อคิด...เรื่องหน้า

หน้า นอก บอกความสามารถ

หน้าใน บอกความดี

หน้าที่ บอกความสามารถ

หน้า นอกแต่งให้พอดี

หน้า ในและหน้าที่แต่งให้มากๆ

.......................................................................

14 ที่สุดในชีวิตเรา

1. ศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ตัวเราเอง

2. ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอวดดี

3. การกระทำที่โง่เขลาที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การหลอกลวง

4. สิ่งที่แสนสาหัสที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอิจฉาริษยา

5. ความผิดพลาดมหันต์ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การยอมแพ้ตัวเอง

6. สิ่งที่เป็นอกุศลที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การหลอกตัวเอง

7. สิ่งที่น่าสังเวชที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความถดถอยของตัวเอง

8. สิ่งที่น่าสรรเสริญที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอุตสาหะ วิริยะ

9. ความล้มละลายที่สุดในชีวิตเรา ก็คือความสิ้นหวัง

10. ทรัพย์สมบัติที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ สุขภาพที่สมบูรณ์

11. หนี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ หนี้บุญคุณ

12. ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การให้อภัยและความเมตตากรุณา

13. ข้อบกพร่องที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การมองโลกในแง่ร้ายและไร้เหตุผล

14. สิ่งที่ทำให้อิ่มอกอิ่มใจที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การให้ทาน

คนเก่งคนดี

ปาเจรา จริยา โหนติ คุณุตรานุสาสกา

ด้วยความรักและห่วง ห่วงใยดังลูกแท้ๆ

เฝ้าอบรมดูแล ด้วยใจ

ไม่ได้หวังเงินทอง ไม่ต้องการสิ่งไหน

ก้อหวังเพียงให้เจ้าได้มีความรู้

จะเป็นเหมือนสะพาน ให้เจ้าข้ามสู้จุดหมาย

นี่คือความตั้งใจของครู โลกใบนี้กว้างใหญ่

มากมายที่เจ้าต้องรู้ เจ้าจงเรียนรู้เพื่อวันต่อไป

* จงตั้งใจให้เป็นคนเก่งคนดี เจ้าไป ได้ดีโชคดี ครูก้อสุขใจ

แต่อย่าเอาความรู้ไปคดโกงใคร

จงใช้ชีวิตบนความดีงาม

คอยจ้ำจี้จำไช ให้เจ้านั้นอ่านนั้นเขียน

ผิดก็คอยเฝ้าเตือนเรื่อยมา

เจ้าคงคิดคงบ่น ว่าอะไรนักหนา

เด็กน้อยวันหนึ่งเจ้าจะเข้าใจ

( * ) แต่อย่าเอาความรู้ไปคดโกงใคร

จงใช้ชีวิตบนความดีงาม

2 เม.ย. 2551

นิทานอีสป



นิทานอีสปเคยกล่าวเอาไว้ว่า...

จงพอใจในวาสนาของท่าน เรามิอาจเป็นเลิศในทุกสิ่งได้ คนไม่พอใจในตัวเองจะเป็นทุกข์ตลอดไป...

.....นานมาแล้วมีกบตัวหนึ่งอาศัยใกล้กุฎิพระ

ตอนเช้าเห็นพระบิณฑบาตได้อาหารมาอย่างสบายทุกวัน เจ้ากบก็ปรารถนาอยากเป็นพระกับเขาบ้าง คงจะดีนะ ต่อมาเมื่อพระฉันเสร็จก็เอาข้าวสุกโปรยให้ไก่กิน เจ้ากบก็คิด เป็นไก่ดีกว่าไม่ต้องออกแรงเลย ไม่อยากเป็นพระอีกแล้ว ขณะนั้นเอง หมาตัวหนึ่งแย่งไก่กินอาหาร ไก่กลัวหมามากจึงหนีเอาตัวรอดอย่างน่าอนาถ เจ้ากบก็คิด เป็นหมาดีกว่าดูเป็นวีรบุรุษดี ไม่อยากเป็นไก่แล้ว มีชายคนหนึ่งเห็นเข้าจึงเอาไม้ไล่ตีหมา จนหมาวิ่งหนีร้องลั่นไป เจ้ากบจึงคิดว่าทำไมเราไม่เกิดเป็นคนหนอ สามารถขับไล่หมาไปได้ จากนั้นเอง ชายผู้นี้ ก็มานั่งริมสระน้ำ แล้วเจ้าแมลงวันก็บินมาตอมจนชายผู้นั้นรำคาญ และลุกหนี พร้อมบ่นว่า "รำคาญแมลงวันจริงโว้ย" เจ้ากบได้ยินเสียงดังนั้น ก็นึกคิดว่าเกิดเป็นแมลงวันดีกว่านะ เพราะเก่งมากจนทำให้คนรำคาญได้ บังเอิญแมลงวันบินมาเกาะที่จมูก มันจึงแลบลิ้นแผลบกินแมลงวัน เจ้ากบจึงค้นพบสัจธรรมอันยิ่งใหญ่ ว่า เป็นอะไรก็ไม่ดีเท่าตัวเราเอง ความทุกข์จึงเกิดจากความไม่รู้จักพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ "เราแทบไม่คิดว่า เรามีอะไรบ้าง แต่เราคิดเพียงว่า เราขาดอะไรบ้างเท่านั้น"


ฉันเป็นกบ อบ...อบ ในกะลา
ภูมิใจว่าตัวเองช่างยิ่งใหญ่
มาวันหนึ่งแล้วกะลาก็พลิกไป
ความภูมิใจสลายลงในพลิบตา
จากที่เคยคิดว่าตัวช่างยิ่งใหญ่
หลงภูมิใจอย่างโง่เขลาเบาปัญญา
แท้ที่จริงโลกนี้กว้างยิ่งกว่า
ทั่วโลกาหาใครใหญ่จริงไม่

ขอขอบคุณที่มา : ธรรมะดิลิเวอร์รี่

--------------------------------------------------------------------------------

ย้อนมามองเรื่องราวของคุณครูกันบ้าง สิ่งที่คุณครูทุกคนไขว่คว้า อยากจะเป็น อยากจะได้ ไม่เหมือนกัน ครูบางท่าน เห็นว่าการเป็นคนขายสินค้าแบบธุรกิจขายตรงดี ก็อยากจะทำ บางท่านก็ว่า ออกไปเป็นนักการเมืองดี ก็อยากจะทำ บางท่านว่า การได้เป็นผู้แทนครูในองค์กรต่างๆ ดี ก็อยากจะทำ บางท่านว่า การได้วิทยฐานะเป็น คศ.3 คศ.4 ดี ก็อยากจะทำ มุ่งมั่นทำในสิ่งๆ นั้นอย่างเต็มที่ บางท่านไม่ลืมหูลืมตา บางท่านเสียเวลาที่เคยมีให้ครอบครัว บางท่านเสียเงินทองมากมายมหาศาล โดยที่ท่านคงจะลืมไปว่า คำว่า "ครู" มีความหมายและหน้าที่อย่างไร จากเรื่องกบข้างบนที่หยิบมาให้อ่านนั้น เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่ง ที่อาจจะพอช่วยเตือนสติ "ครู" ให้หันมามองสิ่งที่ท่านกำลังเป็นอยู่ในปัจจุบัน ว่า

"ตัวท่าน มีความหมายมากมายเพียงใด สำหรับเด็กนักเรียนตาดำๆ ในโรงเรียน"



แค่อยากให้ท่านอย่าลืมตัวตนของคนเป็น "ครู"....แค่นั้นเอง