25 ก.พ. 2551

เที่ยวเวียตนาม












เข้าลาวสะหวันนาเขตเข้านมัสการ.พระธาตุอิงฮัง, ก่อนเข้าเมืองเว้เข้าชมอุโมงค์ใต้ดิน “วินห์มอค” มีถึง
5 ชั้น เข้า-ออกได้ 19 ทาง,ชมสะพาน ตรังเทียน ( Trang Tien )} สะพานสารพัดสี, พระราชวังโบราณ ( Citadel
), ล่องเรือบนแม่น้ำหอมอันลือชื่อ ชมเจดีย์ เทียนหมุ ( Thien Mu Pagoda ),
ชมสุสานกษัตริย์โบราณอันได้แก่ ตือดึ๊ก ( Tu Duc ) และ ไคดิ่นห์ ( Khai Dinh ),
ช๊อบปิ้งซื้อสินค้าราคาถูกที่ตลาดดองบา

ฮอยอัน...เมืองมรดกโลกท่องราตรีกับเมืองที่แสนจะคลาสสิคจริง ๆ ชม สะพานญี่ปุ่นอายุกว่า 300 ปี,
มีบ้านเก่าแก่โบราณมากมาย, ร้านขายของต่างๆ, โคมไฟสวยงาม, เดินเล่นแถวท่าเรือริมแม่น้ำทูโบน,
เที่ยวชายทะเลฮอยอัน,ภูเขาหินอ่อน,

ดานัง...ชมเมืองริมทะเลที่ยาวสุดลูกหูลุกตา ผ่านอุโมงค์ไฮวานที่เจาะทะลุภูเขาใข้เวลาขุด 4 ปี
ระยะทาง 6 กม ชมการค้าและวิถีชีวิต, ผ่านสะพานแขวนที่สวยงาม,
เข้าห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่สุดของดานัง, ชมพิพิธภัณท์จาม
ขอมยุคโบราณ,
ขมมังกรยักษ์ที่ทำจากชามกระเบื้องที่สวนสาธาณณะ ของดานัง

23 ก.พ. 2551

บททดสอบความรัก





ความรักออกแบบไม่ได้ ความรักเป็นแบบไหน

มาทดสอบความรักดู คุณกับเขารักกันที่ลิมิตประมาณใด

พิมพ์ชื่อคุณ ชื่อเธอแล้วกดเทสเล้ยย

19 ก.พ. 2551

ภาพจากต่างแดน






















l

ลองอ่านเล่นๆก่อนไปเวียดนาม

คุณชื่ออะไร....(อัน/แอม)เตินหยี่-
ฉันชื่อ ...(อัน/แอม)เติน...-
ยินดีที่ได้รู้จัก....วุยล้ำกับ(อัน/แอม)
<- แล้วพบกันใหม่...เหิ่นกับหล่าย-
ใช่, ไม่ใช่...ฝาย,คอมฝาย-
ไม่เป็นไร...คอมซาว-
นั่นอะไร...เกียหล่าไก๊หยี่-
ไปทางไหน...ดีเดา-
เมื่อไหร่...คีหน่าว/ลุกหน่าว-
ราคาเท่าไหร่...บาวยิว-
พูดภาษาเวียดนามได้นิดหน่อย...น้อยติ๊งเวีียด จุ๊บซิ้
ว- อันนี้ภาษาเวียดนามเรียกว่าอะไร...ก๊าย หนน่าย หล่า ก๊าย หยี่
- ขอดูห้องได้ไหม (จะใช้ตอนเช่าห้องพัก)...ไไท๊ ฟ่อม ตรึ๊ก เดิก คอม-
คืนละเท่าไหร่...หมก เดม บาว ยิว-
ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมได้มั้ย...กุ๋ย ห่าาง ลี้ อ๋อ คัด แฉง เดิก คอม-
ต้องการเช็คเอาท์...เติ๊น เตี่ยง-
ช่วยเรียกแท๊กซี่ให้ด้วย...ยึ๊บ โตย ก่อย แท๊กซี่ แน-
ไป ...... เท่าไหร่ ///ดี...บาวยิวเตี่ยง
<- ค่ารถเท่าไหร่....จ๋า บาว ยิว-
จอดตรงนี้...หยึ่ง หล่าย ได-
ราคาเท่าไหร่...บาวยิว-
แพงเกินไป....ดั๊ก กว๊า-
ลดได้มั้ย...เหยียม หย้า เดิก คอม?-
จะแลกเงินได้ที่ไหน...โด๋ย เตี่ยง อ๋อ เดาา-
ไปรษณีย์อยู่ที่ไหน...บุย เดี่ยง อ๋อ เดา
<- ชั่วโมงละเท่าไหร่...หมด ติ๊ง บาว ยิว เตีี่ยง-
หิวข้าว, หิวน้ำ....เดา บุ๋ม,คัด นึก
ร้านอาหาร...เตี่ยม อัง-
ไม่ใส่ผงชูรส...คอม เทม หมี่ จิ้น-
จาน, ชาม...ไก๊ เดี๋ย,ไก บั๊ด(โตว)-
เก็บตังค์ด้วย..เติ้น เตี่ยง-
คุณอายุเท่าไหร่..บาว ยิว โต๋ย-
ฉันอายุ ... ปี...แอม ....โต๋ย หร่อย-
ขอที่อยู่คุณได้มั้ย...จอ เดี่ย จี๋ แอม เเดิก คอม-
อีเมล์... อี เมล-
แผนที่...บ๋าง ด่อ-
เงิน..เตี่ยง-
5,000 ด่อง...นำ หง่าน(แหง่ง) ดอง-
10,000 ด่อง...เหม่ย หง่าน(แหง่ง) ดอง> -
15,000 ด่อง...เหม่ย ลำ หง่าน(แหง่ง) ดอง<


Chưa...Em độc thân อ่านว่า เจือ แอม ดอบ ทัน แปลว่า ยัง...น้องยังเป็นโสด
Chúc em ngủ ngon อ่านว่า จุ๊ก แอม โหงว งอน แปลว่า หลับฝันดีนะน้อง


"จ่าว บั๊ก จ่าว โก=สวัสดีคุณลุง สวัสดีคุณป้า"
"จุ๊ก หมึ่ง นำ เม้ย=สวัสดีปีใหม่"
"หั่น ฟุก วุย แหว๋=ขอให้มีความสุข"
"ซุก แคว๋ หงิ่ว ล้ำ=สุขภาพแข็งแรง"
"Hóa đơn đỏ "อ่านว่า ฮว้า เดิง ด๋อ คือใบเสร็จรับเงินพร้อมใบกำกับภาษีของเวียตนาม หรือว่า VAT นั่นเอง
"Phòng vệ sinh Nam Nữ "อ่านว่า ฟ่อม เหว่ซิน นำ นื๋อ แปลว่า ห้องน้ำ ชาย หญิง
"Bảo vệ "อ่านว่า บ๋าวแว๋ แปลว่า "เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
-ก๋ำเอิง หยิ่ว ล้ำ=ขอบคุณมากๆ-
ก๋ำเอิง แอม ยา=ขอบใจน้องนะ-
ก๋ำเอิง จู๊=ขอบคุณครับ ลูกพี่-
ก๋ำเอิง รัด หยิ่ว=ขอบคุณอย่างยิ่ง-
ซิน ก๋ำเอิง จ่าว กุ๋ย หวี่ คัก บ่าง=ขอขอบคุณ สวัสดี ต้อนรับ สหายทุกท่าน

ยิ้มอย่างอ่อนโยน

การยิ้มอย่างอ่อนโยนเป็นอีกหนึ่งวิธีการ ที่จะทำให้วิถีชีวิตของเราผ่อนคลายขึ้น เวลาที่เรายิ้ม เราจะเห็นว่ากล้ามเนื้อบนใบหน้าของเราก็ผ่อนคลายด้วย จิตใจของเราในขณะที่เราเบิกบาน เราจะเห็นว่านั่นเป็นแหล่งพลังงานของการยิ้มที่ไม่ได้เสแสร้ง การผึกที่จะกลับมาดำรงชีวิตอย่างคนที่อ่อนโยนและผ่อนคลาย ไปกับรอยยิ้มที่อ่อนโยนนั้นจะทำให้คนอื่นมีความสุขด้วย


รู้จักตัวเองให้มากขึ้น

เมื่อเรารู้จักตัวเองมากขึ้น เราก็จะเชื่อมั่นตัวเองมากขึ้น ความเชื่อมั่นที่มาจากการบังคับตัวเองที่ว่านี้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างยิ่งเลย ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนเราก็สามารถควบคุมตัวเองได้ความเชื่อมั่นก็จะมากขึ้น การรู้จักตัวเองอย่างนี้จะทำไห้เราสามารถยกมือไห้วตัวเองได้ เพราะจะไม่มีขณะไดเลยที่เรากระทำความผิด ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังเราจะรู้สึกละอายถ้าเรากำลังทำสิ่งใดก็ตามที่ทำให้ใจของเราขุ่นมัวความคิดสำคัญมาก ถ้าเราคิดผิดใจของเราก็ขุ่นมัว เมื่อใจของเราขุ่นมัว ใจของเราก็จะกล่าวร้าย การกระทำของเราก็จะรุนแรงท่านจะเห็นว่ากระบวนการของการทำงานชีวิตนั้น ถ้าเรามีสติปัญญาอยู่ตรอดเวลา การใช้ชีวิตของเราก็จะไม่ลังเลสงสัยแม้แต่นิดเดียว แต่ย่างก้าวของเราความเชื่อมั่นอย่างนี้จะมีอยู่ในชีวิตของท่านได้ ถ้าท่าน ฝึกฝนที่จะมีลมหายใจอย่างคนที่รู้ตื่นและเบิกบาน เรื่องของลมหายใจเป็นเรื่องที่สำคัญ ถ้าเราใช้สิ่งนี้เป็นอาวุธที่ศักดิ์สิทธิ์ในการที่จะเจริญสติปัญญาของเราให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ เราจะรู้ว่าชีวิตของเราเกิดมาศักยภาพของเราสูงสุดคือพ้นทุกข์ได้ นั่นคือศักยภาพของมนุษย์คนหนึ่ง ท่านจงรักษาโอกาสของการได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วไปให้ถึงที่สุดแห่งการพ้นทุกข์ ไม่ว่าขณะใดก็ตาม ความคิดใดก็ตาม ทุก ๆ การกระทำอย่าให้ชีวิตของเราไม่เบิกบาน ออกจากความคับข้องใจ รู้ตื่นและเบิกบานกับลมหายใจอย่างมีสติ ชีวิตท่านจะร่าเริง มีความเชื่อมั่น

ความซื่อสัตย์















ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง เด็กๆ จึงต้องฝึกฝนอบรมให้เกิดมีขึ้นในตนเอง เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนดีมีประโยชน์ และมีชีวิตที่สะอาด ที่เจริญมั่นคง

บรมราโชวาท พระราชทานเพื่อเชิญลงพิมพ์ในหนังสือวันเด็ก ปี พุทธศักราช 2531


คุณสมบัติอย่างหนึ่งที่เป็นรากฐานสำคัญของชีวิตในทุกบทบาทคือ ความซื่อสัตย์
ความซื่อสัตย์เป็นฐานที่สำคัญของการใช้ชีวิตให้มีค่า

9 ก.พ. 2551

เที่ยวต่างแดน

สิงคโปร์เป็นเมืองที่ไม่หยุดนิ่งและอุดมไปด้วยความแตกต่างและสีสัน คุณจะพบกับความผสมผสานอย่างกลมกลืนของวัฒนธรรม อาหาร ศิลปะ และสถาปัตยกรรมได้ที่นี่ เกาะแห่งนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่ถูกปลดปล่อย เป็นเสมือนกลจักรขนาดจิ๋วของเอเชียอาคเนย์ที่รวมเอาสิ่งที่ดีที่สุดของโลกตะวันตกและตะวันออกเอาไว้ด้วยกัน ซึ่งจะมีแหล่งท่องเที่ยวในย่านต่างๆ



ทำดีเพื่อความดี


นานมาแล้ว เมื่อตายังหนุ่มแน่นแข็งแรงและเป็นโสด ตาได้เที่ยวซอกแซก ไปตามตรอกเล็กซอยน้อยในพระนครจนทั่ว คืนวันหนึ่ง ขณะที่ตากำลังเดินอยู่ในตรอกแคบ ๆ แห่งหนึ่ง แถวรองเมือง เท้าของตาได้สะดุดเข้ากับสิ่งนั้นมีลักษณะนิ่ม ๆ คล้ายเนื้อหนังมนุษย์
ด้วยความสงสัยใคร่จะรู้ความจริง ตาจึงก้มลงพิจารณาอย่างใกล้ชิดในที่สุดก็ทราบความจริงว่า สิ่งนั้น คือชายคนหนึ่งกำลังนอนสลบไสลคลุกฝุ่นอยู่กลางถนนในซอย เพราะความมึนเมา กิ่นสุราฟุ้งตลบไปหมด ตาหยุดยืนอยู่ครู่หนึ่งว่าจะทำอย่างไรดี ถ้าจะเดินเลยไปเสียก็คงได้อย่างสบาย แต่อีกใจหนึ่งคิดว่า "ถ้าปล่อยให้เขานอนอยู่ที่นั่นเขาอาจจะถูกคนอื่นเดินมาเตะถีบหรือชนเอา เพราะมองไม่เห็น เขาอาจได้รับอันตราย บางทีสัตว์ร้ายเช่นงูหรือตะขาบมันอาจจะมากันมาต่อยเอาก็ได้ ยิ่งกว่านั้น ภรรยาและบุตรของเขาที่อยู่ทางบ้านอาจจะกำลังตั้งตาคอย คิดไปคิดมาความเมตตากรุณาก็เป็นฝ่ายชนะ ตาก้มลงอุ้มชายขี้เมาคนนั้นขึ้นแบกบนบ่า แล้วก็เดินไปยังห้องแถวใกล้ ๆ ที่มีไฟสว่างวอมแวมออกมา ตาโผล่หน้าเข้าไปที่ประตูแล้ว ถามเจ้าของบ้านว่า รู้จักชายคนนี้หรือเปล่า เจ้าของบ้านหัวเราะแล้วบอกว่าชายคนนั้นคือตาแฉ่งจนทราบแน่นอนแล้ว ก็แบกเขาเดินต่อไปด้วยความลำบากอย่างยิ่ง หลังจากเดินล้มลุกคลุกคลานมาเป็เวลาเกือบ ๑๕ นาทีตามาถึงห้องแถวที่เป็นบ้านของตาแฉ่ง ตาวางเขาลงนอนไว้ที่พื้นซีเมนต์หน้าห้องแถวแล้วก็เอามีอเคาะที่ประตู เมื่อประตูถูกเปิดออก หญิงอายุกลางคน ๆ หนึ่งก็เปิดประตูผลั๊วะออกมา นางจ้องดูหน้าของตาแล้วก็ก้มลงนอนตาแฉ่งซึ่งนอนคุดคู้แทบเท้าด้วย สายตาแสดงความไม่พอใจอย่างยิ่ง ขณะที่ตากำลังจะเอ่ยปากรายงานเรื่องราวให้นางทราบนั่นเองนางก็เองนางก็เอามือชี้หน้าแล้วก็พูดขึ้นว่า "นี่เองคือคนที่พาผัวของข้าไปกินเหล้าเมาหยำเปทุกวัน ข้าจับได้แล้ว" ก่อนที่ตาจะได้อธิบายความจริงให้นางฟัง หญิงคนนั้นก็คว้าไม้คานที่วางอยู่ข้าง ๆ ฝามาประเคนลงไปบนศีรษะของตาอย่างแรงดีแต่ว่าตายกมือทั้งสองขั้นรับไว้ทัน ศีรษะจึงไม่แตกเลือดไหลโทรม ขณะที่นางเงื้อไม้คานขึ้นจะกระหน่ำตีตาอีกเป็นครั้งที่สอง ตาก็ถอยหลังออกไปพ้นรัศมีไม้คานเสียก่อน หญิงผู้ใจร้ายเงื้อไม้คานเผ่นตามจะตีตาอีก ตาจึงจำเป็นต้องวิ่งหนีเพื่อความปลอดภัย ได้ยินแต่เสียงด่าแช่งชักหักกระดูกตามมาข้างหลัง ตาออกมานั่งลูบแขนที่บวมโนเพราะฤทธิ์ไม่คานที่ร้านกาแฟปากซอยพลางคิดอยู่ในใจว่า "เราอุตส่าห์แบกสามีไปส่งจนถึงบ้านด้วยความหวังดี แม้แต่คำว่า "ขอบใจ" คำเดียวก็ไม่ได้รับ ตรงกันข้ามกลับถูกด่าถูกตีจนเจ็บตัวทำดีไม่ได้ดีหนอ?" ตั้งแต่นั้นมาตาก็ไม่ได้ช่วยเหลือใครโดยไม่จำเป็น ตาเชื่อว่าทำดีไม่ได้ดี แน่ ๆ แต่ต่อมาภายหลังตาได้เล่าเรื่องนี้ให้พระองค์หนึ่งฟังท่านสอนตาว่า
ทำดีต้องได้ดีแน่ ๆ ความดีใด ๆ ที่เราทำแล้วจะอยู่ที่ตัวเราเองลาภยศสรรเสริญเป็นแต่เพียงผลพลอยได้จากหวังดี ไม่ใช่ตัวความดี บางทีเราอาจจะได้ แต่บางทีก็อาจจะไม่ได้ แต่ตัวความดีนั้นเราได้แน่ ๆ
ฉะนั้น จงทำความดีเพราะรักในความดี อย่าทำความดีเพื่อหวังผลตอบแทน ถ้าทำความดีเพื่อหวังผลตอบแทน ความดีที่เราทำจะไม่ใช่ความดีแท้ เปรียบเหมื่อนการให้ทานแก่คนอื่น ถ้าเราให้โดยหวังสิ่งหนึ่งตอบแทนการให้นั้นไม่จัดเป็นทานแต่เป็นการค้าเพื่อหวังผลกำไรไป
เมื่อได้ทราบความจริงเช่นนี้ ตาก็กลับทำความดีอีก คราวนี้ทำเพื่อความดีจริง ๆ ไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ บางครั้งตาก็ต้องเสียผลประโยชน์เพราะการทำความดี บางครั่งก็ถูกคนติฉินนินทาด่าว่าบางครั้งก็ประสบความลำบาก แต่ตาก็ยังทำความดีต่อมาจนกระทั่งบัดนี้

ความดี

อะไรคือความดี อะไรคือความชั่ว เรื่องความดีความชั่วจัดเป็นเรื่องยากเรื่องหนึ่ง ที่จะรู้และเข้าใจ เมื่อรู้และเข้าใจแล้วก็ยังยากที่จะปฏิบัติการเว้นความชั่ว ทำความดีให้สมบูรณ์ได้ ทั้งนี้เพราะมีองค์ประกอบหลายอย่างที่ทำให้ปฏิบัติไม่ได้ สมความต้องการและปฏิบัติไม่ได้เสมอไป ตามหลักพุทธศาสนา ถือว่า การกระทำ คำพูดหรือความคิดที่เป็นไปเพื่อไม่เบียดเบียนตนและผู้อื่นให้เดือดร้อนและมีประโยชน์ ถือว่าเป็นความดี ที่ตรงกันข้ามเป็นความชั่ว ที่กล่าวมานี้เป็นหลักกว้าง ๆ อาจมีข้อปลีกย่อยอื่น ๆ อีกที่จะต้องทำความเข้าใจพิเศษอีกมากมาย ในองค์ประกอบดังกล่าวข้างต้นนั้นถือเอาประโยชน์เป็นจุดยืนที่สำคัญ คือเมื่อพิจารณาเล็งถึงประโยชน์แล้ว แม้ตนเองจะต้องเดือดร้อนบ้าง ผู้อื่นเดือดร้อนบ้างก็ถือว่าเป็นความดี เช่น พ่อแม่ต้องเดือดร้อนเหนื่อยยากในการทำมาหาทรัพย์เพื่อให้ลูกได้ศึกษาเล่าเรียน ตัวลูกเองก็ต้องเดือดร้อน ทุกข์กายทุกข์ใจในการศึกษาเล่าเรียน ต้องอดทนอดออม ต้องหักใจไม่ให้หลงใหลเพลิดเพลินในการเที่ยวเล่น เอาเวลาเหล่านั้นมาศึกษาเล่าเรียน แต่การกระทำดังกล่าวนี้มีคุณประโยชน์ทั้งในปัจจุบันและอนาคตจึงเป็นความดี ในทางกลับกัน สิ่งที่ทำให้ตนเองและผู้อื่นมีความสุข ความเพลิดเพลิน แต่ไม่มีประโยชน์ กลับจะเป็นโทษทั้งแก่ตนและผู้อื่น เช่น การแสวงหาความสุขจากอบายมุขต่าง ๆ ถือว่าเป็นความชั่ว พิจารณาตามหลักที่สูงขึ้นไปสักหน่อย มาตรฐานแห่งความดี ความชั่ว ท่านถือเอา ความโลภ โกรธ หลง และไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง เป็นหลักพิจารณา คือกรรมใดที่ทำเพราะโลภ โกรธ หลง เป็นมูล จัดเป็นกรรมชั่ว ถ้าทำด้วยความไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง เป็นมูล คือทำด้วยเหตุผลบริสุทธิ์จัดเป็นกรรมดี โลภ โกรธ หลง เป็นอกุศลมูล รากเหง้าของอกุศล ความไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง เป็นกุศลมูล รากเหง้าของกุศล ท่านว่าเมื่อกุศลมูลเกิดขึ้นแล้ว กุศลอย่างอื่นที่ยังไม่เกิดขึ้นก็เกิดขึ้น ที่เกิดแล้วก็เจริญยิ่งขึ้น ฝ่ายอกุศลมูลก็เช่นเดียวกัน

เสิงสาง

"เสิงสาง" แปลว่า "ใกล้รุ่ง หรือ รุ่งอรุณ" จากตำนานพื้นบ้านที่เล่าขานสืบต่อกันมาความว่า ท้าวประจิต เจ้าเมืองกัมพูชา และนางอรพิมพ์ ชายา ได้พลัดพรากจากกันระหว่างการเดินทางกลับบ้านเมือง และได้พบกันอีกครั้งที่หมู่บ้านแห่งนี้ ตอนฟ้าใกล้สาง จึงได้เรียกชื่อหมู่บ้านแห่งนี้ว่า "บ้านเสิงสาง" ซึ่งต่อมาได้ตั้งเป็นชื่อตำบล อำเภอ มาจนถึงปัจจุบัน ตำบลเสิงสางเป็นที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอเสิงสางมีทั้งหมด 16 หมู่บ้าน แบ่งการปกครองออกเป็น อบต. และเทศบาลตำบล และได้ยกฐานะเป็นอำเภอ เมื่อวัน25 มีนาคม 2522

ฝันดี

Happy Birthday Comments

more Goodnight Comments..here